วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

The Pizza Company

ประวัติความเป็นมาของ The Pizza Company
เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) เป็นร้านอาหารประเภทพิซซ่าจัดการโดย The Minor Food Group มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 1981 ครั้งเป็นบริษัทผู้รับเฟรนไชส์ของพิซซ่าฮัทของประเทศไทย ต่อมาในปี 2001 หมดสัญญากับทางพิซซ่าฮัท ทำให้ The Minor Food Group จึงหันมาทำร้านพิซซ่าเป็นของตัวเองในชื่อ "เดอะ พิซซ่า คอมปะนี" โดยมีแฟรนไชส์ในหลายประเทศ บริหารโดยบริษัทที่กรุงเทพ มีสาขาในต่างประเทศ อย่างเช่นใน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาราเบีย จีน ฟิลิปปินส์ และ กัมพูชา
4P’s
Product
เดอะพิซซ่า คอมปะนี ใช้กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) โดยทำการออกแบบพิซซ่ารูปแบบใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เน้นการเพิ่มชีสและเครื่อง 30% เช่น เมนู เอ็กซ์ แพนพิซซ่า ที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม มีการนำพิซซ่ามาประ ยุกต์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศให้ได้มากที่สุด
Price
ใช้ราคาเดียว คือ 199 บาท สั่งได้ทุกหน้าพิซซ่าในราคาเดียวกัน
Place
ทำการกระจายร้านค้า 150 สาขาทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นนำกลับและบริการส่งตรงถึงบ้าน (Delivery) 70 สาขา และนั่งรับประทานที่ร้าน 80 สาขา ซึ่งทำให้บริษัทฯสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่งขัน 2 เท่า เพิ่มบริการส่งตรงถึงบ้าน (Delivery) ครอบคลุมพื้นที่ 100% ใช้ระยะเวลาในการส่งไม่เกิน 30 นาที ถ้าเกินกว่านี้บริษัทจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆและมีการวางแผนขยายสาขาภายในประเทศอีก 30 สาขา ครอบคลุม 52 จังหวัด ทั่วประเทศ และขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มอีก 50 สาขาทั้งในตลาดตะวันออกกลางและเอเซีย
Promotion
1. มีการเพิ่มงบสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก ที่สุด เป็นการรักษาส่วนครองตลาด มีการสร้างความรู้สึกแตกต่างให้กับลูกค้าเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน
2. มีการส่งเสริมการขาย โดยทำการลดราคาเหลือ 199 บาท สั่งพิซซ่าได้ทุกหน้าในราคาเดียวกัน มีการแจกของแถมตามแต่ละช่วงเทศกาล

กลยุทธ์ของ The Pizza Company
 กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าโดยใช้ P' Product เป็นการทำตลาดหลักๆที่ให้ความสำคัญกับการดีไซน์พิซซ่า ซึ่งเป็นตัวสินค้าให้ออกมาในรูปแบบใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ด้วยสร้างความหลากหลายในด้านเมนูอาหาร เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค ด้วยการลดจุดด้อยของความเป็นอาหารอิตาเลียนที่ไม่คุ้นลิ้นคนไทย โดยเปิดตัวพิซซ่าหน้าใหม่ๆ รสชาติจัดแบบไทยไทย ที่มีการนำอาหารไทยมาประยุกต์เช่น พิซซ่าหน้าต้มยำกุ้ง เป็นต้น
 กลยุทธ์โดยใช้ P’ Price ราคาเดียว คือ 199 บาท สั่งได้ทุกหน้าพิซซ่าในราคาเดียวกัน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาพิซซ่าไม่แพง ซึ่งเป็นเครื่องมือในการขยายฐานลูกค้า
 กลยุทธ์โดยใช้ P' Place ในการเข้าถึงลูกค้า โดยปัจจุบันเดอะ พิซซ่า คอมปะนี มีจำนวนร้านค้า 150 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นรูปแบบสั่งนำกลับและดิลิเวอรี่ 70 สาขา และ 80 สาขาในรูปแบบนั่งรับประทานที่ร้าน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สามารถ เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า
 กลยุทธ์โดยใช้ P ’ Promotion มีการส่งเสริมการขาย โดยทำการลดราคาเหลือ 199 บาท สั่งพิซซ่าได้ทุกหน้าในราคาเดียวกัน มีการแจกของแถมตามแต่ละช่วงเทศกาล
 เพิ่มบริการส่งตรงถึงบ้าน (Delivery) ครอบคลุมพื้นที่ 100% ใช้ระยะเวลาในการส่งไม่เกิน 30 นาที ถ้าเกินกว่านี้บริษัทจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆรวมทั้งยังสามารถสั่งพิซซ่าทางอินเตอร์เน็ตได้ด้วย
 กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์คืออาวุธลับที่เดอะพิซซ่าใช้มาตลอด
 กลยุทธ์การตลาด Pizza Companyใช้ทั้งกิจกรรม Above the line และ Below the line โดยมุ่งติดต่อกับผู้บริโภคในทุกจุด
 การใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี คือ การสร้างแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็ว ช่วยสร้างการรับรู้และการจดจำได้เร็วขึ้น และกลยุทธ์นี้ยังใช้สนับสนุนแผนการขยายสาขาธุรกิจอาหารในต่างประเทศที่ตั้งเป้าหมายไว้คือ 20 สาขาในภูมิภาคเอเชียประกอบด้วยจีน ตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน


Above the line
 TVC







 Print Ad.


 Out Of Home


Below the line
 ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโครงการยูบีซี อาคาเดมี่ แฟนเทเชีย
 เดอะพิซซ่า คอมปะนี ยังได้ร่วมมือกับแกรมมี่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ จัดแคมเปญพิเศษเพียงโทรสั่งพิซซ่าที่ 1112 วันนี้รับสิทธิพิเศษสามารถซื้อซีดีเพลงอัลบัมใหม่ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ได้ในราคาสุดพิเศษ
 แคมเปญ “อิ่มอร่อยคุ้มค่ากับบัตรเติมเงินวัน-ทู-คอล! ลายเดอะ พิซซ่า คอมปะนี 1112” ในครั้งนี้ ง่ายๆ เพียงลูกค้าวัน-ทู-คอล! ทุกท่านซื้อบัตรเติมเงิน ลายเดอะ พิซซ่า คอมปะนี 1112 นอกจากจะเติมเงินได้ 100 บาท เต็มตามจำนวนหน้าบัตรแล้ว ยังสามารถใช้เป็นส่วนลด 100 บาทได้ทันที เมื่อซื้อพิซซ่า Extreme (ขอบไส้กรอก ชีส เบคอน) ทุกหน้า โดยสามารถรับสิทธิพิเศษนี้ได้ทุกที่ทั้งที่ร้านและที่บ้าน โดยวัน-ทู-คอล! ได้ผลิตบัตรเติมเงินดังกล่าวเป็นจำนวนถึง 10 ล้านใบ รวม 5 ลายด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าอิ่มอร่อยอย่างคุ้มค่าได้

กลยุทธ์ที่จะทำให้ Pizza Company กลายเป็น Global Brand
1. ทำการ Rebranding ใหม่ โดยเริ่มจากการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูเป็นร้านอาหารที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
มีความเป็นแบรนด์อินเตอร์มากขึ้น ในสายตาของชาวต่างประเทศ และคนไทย
2. เลือกใช้วัตถุดิบ ที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ original ของแต่ละที่ เป็นสากล พร้อมกับการประชาสัมพันธ์
ถึงความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบ ที่มา และขั้นตอนการผลิตที่ทาง Pizza Company ได้ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
3. ทำให้เป็นมาตรฐานในทุกขั้นตอนการผลิต ว่าควรใช้อุณหภูมิเท่าไหร่ในการอบแป้งพิซซ่าเพื่อให้มีกลิ่นที่หอมกรุ่น
และแป้งที่กรอบนอกนุ่ม การปรุงอาหาร ควรใช้เทคนิคพิเศษอะไรในการปรุงอาหาร รวมไปถึงการบริการ โดยการอบรมพนักงานให้มีมาตรฐานในการบริการ ควรจะทักทายอย่างไร และควรจะบริการอย่างไงให้ประทับใจ โดยรู้ถึงสิ่งที่ผู้บริโภคลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต้องการ
4. รสชาติ ต้องปรับให้เข้ากันทั่วโลก ต้องเข้าใจว่าทุกคนทั่วโลกทั้งเอเชีย และยุโรป ต้องการรสชาติแบบไหน
แต่ต้องมีเอกลักษณ์ ต้องเป็น Pizza ที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับแบรนด์ กินได้ทั่วโลก คนส่วนใหญ่ชอบ
5. เพิ่มช่องทางในการติดต่อกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น ในการที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะทำการติดต่อกับ
แบรนด์ ไม่ว่าเป็นสื่อ Above the Line และ Below the Line รวมทั้งใช้สื่อใหม่ๆ และสื่อออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เพราะ Lifestyle ของผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป เช่น Pizza Company อาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็น Sponsor ให้กับงานระดับโลก หรืองานที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก หรืออาจจะไปเป็นตัวเลือกในเมนูของสายการบินระดับโลกที่บินไปยุโรป และเอเชีย
6. ปรับที่ราคา ให้ดูเหมาะสมและเข้ากับวัตถุดิบที่มาจากแหล่งกำเนิด
7. เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อาจจะใช้ทั้งชาวเอเชีย และชาวยุโรป เช่น Jackie Chan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น